Neobella
ยาสลายส่วนเกินที่ได้รับการยอมรับอันดับ 1 ของโลก
ทำไมต้อง Neobella
ประเด็นคือ Mesofat มีสองกลุ่ม กลุ่มแรกจะทำให้เซลล์ไขมันบางลงโดยสาร Lecithin โยโย่ได้ง่ายอีกกลุ่มคือ
Mesofat ที่มีสาร DCA (Deoxycholic Acid) สามารถทำลายลดจำนวนเซลล์ไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่การใช้ยาต้องมีการฉีดอย่างระมัดระวัง อาศัยความเชี่ยวชาญของแพทย์ครับเนื่องจากมีผลข้างเคียงได้หลายอย่างครับ
- Deoxycholic Acid (DCA) ยาสลายส่วนเกินที่ได้รับการยอมรับอันดับ 1 ของโลก
- SLimming & Ligting results with No rebound phenomenon
- Predictable outcome : Strong scientific evidence
- Deoxycholic acid in Unique Korean formula
DCA หรือ Deoxycholate ดีอ๊อกซี่โคเหลด เป็นสารหนึ่งที่สามารถที่ทำลายเซลล์ไขมันได้ดีครับ เมโสแฟตในท้องจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม
- Adipocytolysis หรือแปลว่าทำให้เซลล์ไขมันแตก (Adipocyte = เซลล์ไขมัน Cytolysis = เซลล์ตาย )
มักจะเป็นเมโสแฟตที่มีส่วนประกอบของ DCA หรือ PPC ข้อเสียคือเจ็บระบบอักเสบได้เนื่องจากเซลล์มีการแตกตัว
ส่วนอีกกลุ่มจะนุ่มนิ่มน่ารัก - Lipolysis หรือ การเอาไขมันออกจากเซลล์ แต่เซลล์ยังคงอยู่ เซลล์ไขมันแค่เล็กแฟบลง หากกินเยอะปริมาณไขมันก็จะโยโย่กลับมาได้บ้างครับ
หรือเซลล์กลับมาเต่งเหมือนเดิมนั่นเอง จะพบได้ในเมโสแฟตที่สามาตรฐานอย่าง Lecithin หรือ Bromelain เพราะเช่นนั้นการทำเมโสแฟต จะช่วยทุ่นแรงเรื่องการจัดการกับไขมันได้ครับหากคุณเข้าใจกลไกของสิ่งที่คุณกำลังใช้อยู่
- ยาฉีดใหม่ สำหรับ “ลดไขมันใต้คาง” (Deoxycholic Acid for submental fat reduction)
- เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมานี้องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (U.S. FDA) ได้รับรองยาฉีดตัวใหม่อีกตัว ชื่อ Deoxycholic Acid (หรือชื่อการค้าว่า Kybella ของบริษัท Kythera Biopharmaceuticals Inc., Westlake Village, California)
- ยานี้ใช้ฉีดลดไขมันใต้คาง ในรายที่มีไขมันสะสมปานกลางถึงมาก (moderate-to-severe convexity or fullness from submental fat) หรือที่คนไทยเราชอบเรียกว่า “เหนี่ยงใต้คาง” แต่ใช้ได้ “เฉพาะ” ในผู้ใหญ่นะคะ (18+ ค่ะ)
- “ข้อห้าม” ของยานี้ คือ มีการติดเชื้อบริเวณใต้คาง รวมถึงสิวอักเสบ หรือรูขุมขนอักเสบด้วยนะคะ
- กลไกการออกฤทธิ์ของยา คือ ยาจะไปออกฤทธิ์สลายเซลล์ไขมัน (cytolytic drug) โดยยาจะเข้าไปทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ (cell membrane) ทำให้เซลล์ไขมันสลายตัว (cell lysis) ค่ะ
- ยาตัวนี้ จึงเป็น “ทางเลือกใหม่” ทดแทนการดูดไขมัน (liposuction) หรือการผ่าตัดเนื้อเยื่อไขมันออก (lipectomy) ค่ะ
- ส่วนการใช้กับไขมันที่ส่วนอื่นของร่างกาย เช่น หน้าท้อง ลดห่วงยางรอบเอว สะโพก หรือต้นขา ยังไม่มีรายงานวิจัยเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัยนะคะ
- “ข้อควรระวัง” หรือ “ผลข้างเคียง” อื่นๆ ของยานี้ ได้แก่
- บริเวณใต้คาง จะมีเส้นประสาทใบหน้า (marginal mandibular nerve) การฉีด อาจทำให้เส้นประสาทนี้บาดเจ็บ เกิดอาการปากเบี้ยวได้
- ผู้ป่วยที่มีหรือเคยมีภาวะกลืนลำบาก (dysphagia) ไม่ควรได้รับการฉีดยานี้นะคะ เพราะ “อาจทำให้” ภาวะกลืนลำบากรุนแรง หรือกลับเป็นใหม่ได้ เพราะยาไปรบกวนกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการกลืนค่ะ
- ตำแหน่งที่ฉีดยา มีเลือดคั่ง หรือเป็นจ้ำเลือด (injection-site hematoma or bruising) จึงควรระวังในคนที่มีโรคเลือดไหลไม่หยุดอยู่เดิม (เช่น ฮีโมฟีเลีย) หรือคนที่รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด (เช่น ยา aspirin, Xarelto) เพราะคนไข้กลุ่มนี้ อาจมีเลือดคั่งหรือเป็นจ้ำเลือดขนาดใหญ่ อุดกั้นทางเดินหายใจ เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หรือเลือดคั่งเป็นปัจจัยเสริมการติดเชื้อได้ง่ายค่ะ
- ในคนไข้ปกติที่ไม่มีโรคเลือด หรือรับยาต้านการแข็งตัวของเลือด อาการเลือดคั่งหรือเป็นจ้ำเลือด อาจคงอยู่นานถึง 3-4 สัปดาห์หลังฉีดค่ะ
- การบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อหรืออวัยวะใกล้เคียงอื่น เช่น ต่อมน้ำลายใต้คาง ต่อมน้ำเหลือง กล้ามเนื้อ
- ฉะนั้นยานี้ควรได้รับการฉีด โดยแพทย์ที่มีความรู้ความชำนาญเท่านั้นนะคะ โดยการฉีด จะใช้เพียงการฉีดที่ไขมันใต้ผิวหนัง (subcutaneous fat tissue) บริเวณคาง (submental area) เท่านั้น
- โดยครั้งหนึ่ง ห้ามฉีดเกิน 50 จุด และต้องเว้นระยะห่างระหว่างการฉีดอย่างน้อย 1 เดือน (ปกติมักต้องฉีด 2-4 ครั้ง ฉีดได้ไม่เกิน 6 ครั้งนะคะ ฉีดเกินกว่านี้ ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการว่าปลอดภัยไหม)
วิธีการใช้ Neobella
การเตรียมตัวก่อนฉีด
- งดยาและวิตามินที่ผลต่อการแข็งตัวของเลือด 3-5 วัน เช่น วิตามินอี โสม
- ทายาชา 30 นาที ก่อนฉีด
- ประคบน้ำแข็ง 15 นาทีก่อนฉีด
วิธีฉีด
- ใช้เข็ม 30 G
- ฉีด Neobella โดยไม่ต้องผสม 0.2-0.4 CC / cm2 ขึ้นกับความหนาของชั้นไขมันจากการประเมิน โดยฉีดเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง
- สามารถฉีดซ้ำได้ทุก 1-2 สัปดาห์ เห็นผลได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 และผลชัดเจนที่เดือนที่ 2
คำแนะนำหลังฉีด
- ประคบน้ำแข็งหลังฉีด 15 นาที
- หากมีอาการปวด ระบบมจากเข็มสามารถทานพาราเซตามอลได้
- หากไม่ระบมแนะนำนวดเพื่อกระจายตัวยา
- 90% ของคนไข้ไม่มีอาการบวมแต่หากมีจะยุบลงภายใน 48 ชั่วโมง